บทสรุปผู้บริหาร
ᅟᅟᅟᅟมหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และลักษณะงานและวิชาชีพ เพื่อให้บุคลากรของมหาวิทยาลัย ได้รับการพัฒนาให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟᅟกระบวนจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรประกอบด้วย ๕ ขั้นตอนได้แก่ ๑) แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๒) สำรวจความต้องการในการพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัย ๓) นำข้อมูลที่ได้จากข้อ ๒ มาสังเคราะห์ จัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาบุคลากร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ ๔) รับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนาบุคลากร ๕) นำเสนอ (ร่าง) แผนพัฒนาบุคลากร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ ต่อคณะกรรมการบริหารงานบุคคล
ᅟᅟᅟᅟการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรได้วิเคราะห์ความเชื่อมโยงยุทธศาสตร์แผนพัฒนาบุคลากรเชื่อมโยงกับพันธกิจของมหาวิทยาลัย ซึ่งกำหนด Road Map ของแผนพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปีงบประมาณ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ไว้ดังนี้ ปีที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๖ วางระบบงาน HR (HR System พร้อมใช้ EdPEx) ปีที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๗ สื่อสารและสร้าง ระบบงาน HR สู่ความเป็นเลิศ ปีที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ พัฒนาบุคลากรให้มีขีดความสามารถที่กำหนด ปีที่ ๔ พ.ศ พ.ศ. ๒๕๖๙ ยกระดับกระบวนการ HR DIGITAL และปีที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๗๐ บุคลากรที่เป็นต้นแบบตามแนวทางการบริหารสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งคณะกรรมการบริหารงานบุคคล ได้พิจารณาอนุมัติใช้แผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะ ๕ ปี (๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖
ᅟᅟᅟᅟหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนพัฒนาบุคลากรฉบับนี้ จะเป็นแนวทางให้ทุกส่วนงานได้นำไปประกอบการจัดทำแผนพัฒนาของส่วนงานเพื่อมุ่งไปสู่วิสัยทัศน์ พันธกิจของมหาวิทยาลัยต่อไป
กรกฎาคม ๒๕๖๕
ส่วนที่ ๑ บทนำ
ᅟᅟᅟᅟบุคลากรมีความสำคัญต่อมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นปัจจัยที่มีส่วนพลักดันและส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเกิดการพัฒนา ตามภารกิจต่าง ๆ ของส่วนงานให้บรรลุผลสำเร็จและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรของส่วนงานอย่างเหมาะสม จนทำให้บุคลากรส่วนใหญ่พึงพอใจ และมีผลต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ของตนที่มีอยู่ในองค์กร เมื่อบุคลากรมีความรู้ ความสามารถ ก็จะทำให้การปฏิบัติงานของบุคลากรแต่ละคนมีประสิทธิภาพสูงสุด และจะทำให้ผลสัมฤทธิ์โดยรวมของส่วนงานสูงสุดด้วย แต่เนื่องจากองค์กรทุกแห่งมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ สภาวการณ์การแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้รับบริการ ฉะนั้น ส่วนงานทุกแห่งจำเป็นจะต้องมีการวางแผนพัฒนาบุคลากร เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วย
ᅟᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในระดับอุดมศึกษา จำเป็นจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่องบประมาณที่ได้รับจัดสรร ประกอบกับบุคลากรของรัฐแต่ละบุคคลมีความรู้ ความสามารถหลากหลาย มีความแตกต่างกันตามหน้าที่และภารกิจ จำเป็นต้องมีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ และนโยบายของมหาวิทยาลัย จึงได้จัดทำแผนพัฒนาบุคลากร ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ที่ ๑ จัดการศึกษา พัฒนาบัณฑิตให้มีสติปัญญาและคุณธรรม เป้าประสงค์ ๑.๒ หลักสูตรมีการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่ และเป้าประสงค์ที่ ๑.๓ อาจารย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์และสามารถบูรณาการพุทธนวัตกรรมกับกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม และ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ที่ ๕.๓ มีระบบการบริหารจัดการองค์กรวิถีพุทธ ตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)
ᅟᅟᅟᅟเพื่อจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ ทิศทางการพัฒนาตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) และสอดคล้องกับลักษณะงานและบริบทของมหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟᅟบุคลากรของมหาวิทยาลัย มีขีดสมรรถนะเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์
๑.๕.๑ การบริหารงาน
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ถือเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ แห่งคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายมหานิกาย การบริหารและการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยมีความสัมพันธ์ทางกฎหมายทั้งกับรัฐบาลและคณะสงฆ์ โดยมีสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรบริหารสูงสุด
๑.๕.๒ โครงสร้างมหาวิทยาลัย
๑.๖.๑ ข้อมูลบุคลากรสายวิชาการ และผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
ᅟᅟᅟวันที่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ มีอาจารย์ทั้งหมด ๑,๓๖๔ รูป/คน จำแนกเป็นปริญญาโท ๕๓๐ รูป/คน ปริญญาเอก ๘๓๔ รูป/คน และมีตำแหน่งทางวิชาการ จำนวน ๕๐๔ รูป/คน จำแนกเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ๓๗๓ รูป/คน รองศาสตราจารย์ ๑๒๓ รูป/คน และศาสตราจารย์ ๘ รูป/คน
*ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ผศ.= ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รศ.= รองศาสตราจารย์ ศ.= ศาสตราจารย์
๑.๖.๒ จำนวนบุคลากรแยกตามประเภท
ᅟᅟᅟในปีพ.ศ. ๒๕๖๖ มีบุคลากรประเภทตำแหน่งสายปฏิบัติการและบริหารทั่วไป (นับรวมอัตราจ้างที่มีสัญญาจ้างและค่าตอบแทน) จากทุกส่วนงาน รวมทั้งหมด ๒,๓๐๘ รูป/คน บุคลากร ๑,๐๓๘ รูป/คน ลูกจ้าง ๑,๒๗๐ รูป/คน
*ข้อมูล กองกลาง สำนักงานอธิการบดี ณ วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
ᅟᅟᅟᅟผู้บริหารตามประกาศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. ๒๕๖๕ มีโครงสร้างและตำแหน่งจำแนกเป็นผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง และระดับต้น ดังแสดงในตารางที่ ๓
ᅟᅟᅟᅟตารางที่ ๓ ผู้บริหารระดับสูง กลาง ต้น ตามโครงสร้างมหาวิทยาลัย
*ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
ส่วนที่ ๒ ความเชื่อมโยงและทิศทางการพัฒนาบุคลากรกับการพัฒนามหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟᅟการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีข้อมูลนโยบาย เอกสารที่เชื่อมโยง เกี่ยวข้องและนำมาทบทวนการจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรดังนี้
๒.๑ นโยบายอธิการบดีเพื่อการบริหารมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๖๕
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะธำรงสถานะความเป็นสถาบันอุดมศึกษาแบบสากลและสถาบันอุดมศึกษาของคณะสงฆ์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- องค์ประกอบของวัด เช่น พระสงฆ์สามเณร การศึกษา ปฏิบัติ และเผยแผ่พระธรรมวินัย ศาสนวัตถุ/ศาสนสถานเป็นพุทธศิลป์เช่น พระพุทธรูป เจดีย์ วิหาร รอยพระพุทธบาท ต้นพระศรีมหาโพธิ พระบรมสารีริกธาตุ ศาสนพิธี ลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ ที่แสดงความเป็นวัดในพระพุทธศาสนา
ᅟᅟᅟᅟ- ผู้บริหารที่เป็นพระสงฆ์และ/หรือพระนิสิตนำทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น ทำวัตร สวดมนต์ บำเพ็ญจิตภาวนา บุญพิธีและกุศลพิธีอยู่เนือง ๆ ทั้งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ และวันสำคัญของชุมชนท้องถิ่น
ᅟᅟᅟᅟ- ร่วมมือกับคณะสงฆ์หรือองค์กร/สมาคม/สถาบันต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมการศึกษาปฏิบัติ และเผยแผ่พระพุทธศาสนา กิจกรรม/พิธีกรรมท้องถิ่นที่สัมพันธ์กับหลักพระพุทธศาสนา ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟᅟ- พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดพระพุทธศาสนา ศูนย์การเรียนรู้และเก็บสะสมคัมภีร์โบราณ/ปัจจุบัน สถาปัตยกรรม/ประติมากรรม/จิตรกรรมทางพระพุทธศาสนา
ᅟᅟᅟᅟ- มูลนิธิ/กองทุนพัฒนาสถาบัน
ᅟᅟᅟมจร วังน้อย : จัดภูมิทัศน์พื้นที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และบริเวณโดยรอบอาคารพิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ และสถานที่อื่น ๆ กิจกรรมทำวัตรเช้าทุกวันจันทร์ต้นเดือน และกิจกรรมบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุในวันสำคัญต่าง ๆ
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะพัฒนาด้านกายภาพ เช่น อาคารสถานที่ ให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว ดังนี้ ต้นไม้ สวนป่า สวนหย่อม แหล่งน้ำ สวนเกษตรผสมผสาน
ᅟᅟᅟᅟ- การจัดเก็บขยะ กำจัดขยะมูลฝอย การแปลงขยะมูลฝอยไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ
ᅟᅟᅟᅟ- ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) อย่างน้อยครึ่งหนึ่งในการเรื่องไฟฟ้าเพื่อการบริหารภายในอาคาร และติดตั้งหลอดไฟโซล่าเซลล์ตามจุดต่าง ๆ ภายนอกอาคาร
ᅟᅟᅟᅟ- มาตรการประหยัดค่าสาธารณูปโภค คือ ไฟฟ้า โดย
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๑) ปรับเปลี่ยนสวิทช์รวมเป็นสวิทช์ ไฟฟ้าและพัดลมบางจุด เพื่อให้เปิดใช้เฉพาะจุดที่จำเป็น
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๒) ลดจำนวนหลอดไฟบางจุดที่มีมากเกินความจำเป็น
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๓) ใช้สวิทช์อัตโนมัติ (Sensor) ที่เปิดเมื่อคนเดินเข้าไปใช้และปิดเองเมื่อไม่มีคนเข้าไปใช้งานในที่นั้น ๆ เช่น บริเวณห้องน้ำ
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๔) ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดประหยัดพลังงาน
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๕) เปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เก่ากินไฟมาก
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๖) รณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดไฟฟ้า
ᅟᅟᅟᅟ- มาตรการประหยัดน้ำ
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๑) ปรับเปลี่ยนก็อกน้ำอัตโนมัติบางจุดที่มีระยะเวลาระหว่างเปิด-ปิด นานเกินไปเมื่อมีการเปิดก็อกน้ำ
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๒) สำรวจและซ่อมแชมก็อกน้ำ/ท่อน้ำที่ชำรุดทำให้น้ำรั่วไหล
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๓) ใช้น้ำจากบ่อ/สระรดน้ำต้นไม้สลับกับใช้น้ำประปา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ปั๊มน้ำ
ᅟᅟᅟᅟᅟ(๔) รณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดน้ำ
ᅟᅟᅟᅟ- จัดภูมิทัศน์บริเวณภายในมหาวิทยาลัย รวมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดี งดงาม สะอาด สว่างโดยติดตั้งหลอดไฟโซล่าเซลล์ตามจุดต่าง ๆ และสงบ ให้สัปปายะ (เหมาะสะดวก) ต่อการศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่พระพุทธศาสนา
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา :
ᅟᅟᅟᅟ- ปลูกต้นไม้เสริมตามจุดต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟᅟ- จัดภูมิทัศน์ในบริเวณมหาวิทยาลัย คือ ด้านหน้าติดถนนใหญ่ ประตูทางเข้า (หน้าบ้านหน้ามอง) ด้านหน้าอาคารสถาบันวิปัสสนาธุระ รอบอาคารหอฉัน พื้นที่บริเวณตรงกลางอาคารเรียนรวม บริเวณรอบสระหน้าหอประชุม มวก.
ᅟᅟᅟᅟ- บูรณปฎิสังขรณ์อาคาร คือ (๑) อาคาร มจร ที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร (๒) อาคารเรียนรวม (๓) อาคารหอฉัน (๔) อาคารหอพักนิสิตที่อยู่ด้านหน้าอาคาร พอ.มจร.
ᅟᅟᅟᅟ- ดำเนินการจัดทำอาคารหอสมุดนานาชาติให้สมบูรณ์ และจัดหาครุภัณฑ์ประกอบอาคาร เพื่อให้ใช้สอยได้
ᅟᅟᅟᅟ- บูรณปฏิสังขรณ์บริเวณไหล่ทางภายในมหาวิทยาลัยให้สะดวกแก่การสัญจร
ᅟᅟᅟᅟ- ปรับปรุง/ลอกท่อน้ำภายในมหาวิทยาลัยให้น้ำไหลถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น
ᅟᅟᅟᅟ- ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย
ᅟᅟᅟᅟ- สร้างอาคารที่เก็บพักขยะ
ᅟᅟᅟᅟ- ติดตั้งโซล่าเชลล์ตามอาคารต่าง ๆ
ᅟᅟᅟᅟ- ปรับปรุง/เพิ่มสมรรถนะโรงไฟฟ้าย่อยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ᅟᅟᅟᅟ- จัดทำระบบไฟฟ้าสำรองตามอาคารต่าง ๆ เช่น อาคารเรียนรวม อาคารสำนักงานอธิการบดี อาคารวิทยบริการ
ᅟᅟᅟᅟ- นำดินมาใส่เพิ่มบริเวณพื้นที่ป่าหลังอาคารสถาบันวิปัสสนาธุระให้มีระดับสูงขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ที่ปฏิบัติกรรมฐาน และเพื่อไม่ให้มีน้ำท่วมขังเวลาฝนตก
ᅟᅟᅟᅟ- ปลูกต้นไม้เล็ก เช่น ชาดัด ต้นโมก หรือไทรเกาหลีเพื่อเป็นแนวรั้วกั้นสวนหลังอาคารสถาบันวิปัสสนาธุระ ให้เป็นสวนป่าแยกสัดส่วนใช้ปฏิบัติธรรมได้ในบางโอกาส
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับคนทุกเพศทุกวัยและทุกชาติ จะดำเนินงานพันธกิจด้านการผลิตบัณฑิตดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- ดำเนินการจัดทำ มคอ. ๑ สาขาวิชาพระพุทธศาสนาระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอกเสนอให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ
ᅟᅟᅟᅟ- หลักสูตรด้านพระพุทธศาสนา และพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ ระดับรับปริญญา Degree และหลักสูตรระดับประกาศนียบัตร Non Degree
ᅟᅟᅟᅟ- หลักสูตรฝึกอบรมด้านพระพุทธศาสนา และพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่เพื่อให้เกิดทักษะใหม่ ๆ (Reskills) และเพื่อเพิ่มทักษะ (Upskills) สำหรับผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย คณะสงฆ์ และประชาชนทั่วไป
ᅟᅟᅟᅟ- หลักสูตรเพิ่มความรู้ (Upskills) ด้านภาษาต่างประเทศสำหรับผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป
ᅟᅟᅟᅟ- ระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อรับปริญญา โดยเปิดโอกาสให้ผู้จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรสาขาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยสะสมหน่วยกิตเพื่อรับปริญญา
ᅟᅟᅟᅟ- หลักสูตรด้านพระพุทธศาสนาออนไลน์เพื่อรับปริญญา (Degree)
ᅟᅟᅟᅟ- หลักสูตรบริการวิชาการ Massive Online Open Course (Mooc)
ᅟᅟᅟᅟ- ร่วมมือกับเครือข่ายจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ๒ ปริญญา รวมทั้งเปิดรับนิสิตนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาอื่นมาลงทะเบียนเรียนบางรายวิชาเพื่อสะสมหน่วยกิตรับปริญญาหรือเพิ่มพูนความรู้
ᅟᅟᅟᅟ- บริเวณภายในมหาวิทยาลัยมีแหล่งเรียนรู้มาก ในรูปแบบของเอกสารทางวิชาการ กิจกรรมการบรรยาย ห้องสมุดที่เปิดให้ชุมชนโดยรอบเข้าใช้ประโยชน์ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม เป็นต้น
ᅟᅟᅟนโยบายที่ ๔ พุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม มหาวิทยาลัยเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยประจำ (Buddhist Innovation for Mental and Social Development, Engaged University and Boarding University)
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะเป็นแหล่งสร้างพุทธนวัตกรรมทั้งด้านผลผลิต กระบวนการบริการ และการจัดการ โดยจะดำเนินงานพันธกิจด้านการวิจัยและบริการวิชาการ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- วิจัยและพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญา มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธวิธีเพื่อสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่จัดการเรียนการสอนโดยกระบวนการที่เน้นทั้งการศึกษาเล่าเรียน (Study-Academic) และการศึกษา อบรม (Training-Meditation) ควบคู่กันไป พร้อมกันนั้นก็ให้นิสิตได้ฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง/จำลองสถานการณ์ประกอบรายวิชาต่าง ๆ ให้มีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เข้ากับหลักพาหุสัจจะที่ว่า (๑) พหุสสุตา ได้ยินได้ฟังมาก (๒) ธตา ทรงจำไว้ได้ (๓) วจสา ปริจิตา คล่องปาก (๔) มนสานุปกฺขิตา ขึ้นใจ และ (๕) ทิฏฺฐิยา สุปฏิวิทฺธา ขบคิดเป็นทฤษฎีได้ เน้นกระบวนการเรียนการสอนแบบ Teach Less, Learn More และ Student-Directed Learning เพื่อสร้างคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ที่จะทำให้อยู่ในสังคมยุคใหม่ได้อย่างปกติสุข ประกอบด้วย Academic Leadership, Social Literacy, Social Maturity, Proactive Attitude, Emotional Intelligence, Management Skills และ Media Literacy
ᅟᅟᅟᅟ- วิจัยและพัฒนารูปแบบการปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานที่เหมาะสำหรับคน แต่ละวัยและสถานะหน้าที่การงานเพื่อพัฒนาปัญญาและคุณธรรม
ᅟᅟᅟᅟ- วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างรูปแบบการบริหารจัดการเชิงพุทธบูรณาการ โดยนำผลการวิจัยมา ทำเป็นคู่มือการฝึกอบรม พร้อมกันนั้นก็จัดโครงการฝึกอบรมผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ของ มหาวิทยาลัยและประชาชนทั่วไป
ᅟᅟᅟᅟ- วิเคราะห์ ตีความ อธิบายความพุทธธรรม จัดระบบ ออกแบบการนำเสนอ จัดทำเป็นชุด ความรู้ที่เหมาะกับคนแต่ละวัยและสถานะ เช่น การ์ตูน Animation พุทธประวัติ อนุพุทธประวัติ ชาดกแล้วนำเสนอทั้งใน Onsite และ Online ในช่องทางต่าง ๆ ของ MCUTV
ᅟᅟᅟᅟ- กิจกรรมการเทศน์ ปาฐกถา บรรยายธรรม Online ทุกสัปดาห์และในวันสำคัญต่าง ๆ สะสมข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาให้บริการวิชาการแก่สังคมทุกรูปแบบ เช่น รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ᅟᅟᅟᅟ- กิจกรรมการให้การศึกษาเล่าเรียนและการศึกษาอบบรมแก่เยาวชนในรูปแบบโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันเสาร์ - อาทิตย์ ในรูปแบบของการจัดค่ายพุทธบุตร-ค่ายคุณธรรม
ᅟᅟᅟᅟ- กิจกรรมปฏิบัติวิปัสสนาสำหรับนิสิตและประชาชนทั่วไป เช่น ที่ มจร วังน้อยจัดเดือนละ ๒ ครั้ง สำหรับบุคลากรของภาครัฐและเอกชนที่มาบำเพ็ญจิตตภาวนา
ᅟᅟᅟᅟ-การทำหน้าที่ตามพันธกิจของสถาบันอุดมศึกษา เน้นบริการวิชาการแก่สังคมที่เป็นเพื่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ อาชีพ และชุมชนสามัคคี
ᅟᅟᅟᅟ-มีชุมชนภายในมหาวิทยาลัย/รอบมหาวิทยาลัยที่มีกิจกรรมทางวิชาการและกิจกรรมศาสนาร่วมกันอยู่เนือง ๆ
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาระดับโลก ปัจจุบันมีนิสิตต่างประเทศทุกระดับ มีจำนวน ๑,๓๘๓ รูป/คน แยกระดับดังนี้ (๑) ปริญญาตรี จำนวน ๘๕๘ รูป/คน (๒) ปริญญาโท จำนวน ๓๖๒๙ รูป/คน (๓) ปริญญาเอก จำนวน ๓๕๖ รูป/คน นโยบายในการจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์ สมัยใหม่ระดับนานาชาติ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (International Buddhist Studies Center = IBSC) คณะ วิทยาลัยของมหาวิทยาลัยทำความตกลงร่วมมือทางวิชาการกับสถาบัน/องค์กรในต่างประเทศ
ᅟᅟᅟᅟ- จัดตั้งศูนย์ประสานงานในต่างประเทศ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับผู้ที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ประสงค์จะมาศึกษาที่มหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้วกลับไปประเทศของตนประสงค์ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งศูนย์ประสานงานนี้ได้
ᅟᅟᅟᅟ- ทำงานร่วมกับเครือข่าย ABU, ICDV และกลุ่มนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาที่ทำ CBT และ UCBT รวมทั้งการแปลพระไตรปิฎกบาลีเป็นภาษาอังกฤษที่รัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุ ๖ รอบพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
ᅟᅟᅟᅟ- ทำงานร่วมกับเครือข่ายสถาบันสมทบในต่างประเทศ
ᅟᅟᅟᅟ- คณะ วิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษทำแผ่นแนะนำหลักสูตร มีรายละเอียดครบถ้วนตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร หลักฐานประกอบการสมัคร การขอ Provisional Admission เพื่อประกอบการขอวีซ่าเข้าประเทศ จำนวนหน่วยกิตรายวิชา ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร (เทียบสกุลเงินของชาติต่าง ๆ ระยะเวลาศึกษาตลอดหลักสูตร เป็นต้น)
ᅟᅟᅟᅟ- กำหนดให้คณาจารย์ของคณะที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความรู้ระดับที่จะถ่ายทอดทางวิชาการได้
ᅟᅟᅟᅟ- ตั้งกองทุนเพื่อความเป็นนานาชาติ เพื่อระดมทุนจ้างอาจารย์ชาวต่างประเทศมาเป็นอาจารย์คณะ วิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติ
ᅟᅟᅟᅟ- จัดการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติ (อังกฤษ จีน และอื่น ๆ) ในคณะและวิทยาลัยต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาตรีในคณะครุศาสตร์
ᅟᅟᅟᅟ- เพิ่มจำนวนหลักสูตรด้านพระพุทธศาสนา/พระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ หลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ อีก ๑ ภาษา Online
ᅟᅟᅟᅟ- แปลตำราประกอบการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีเป็นภาษาอังกฤษปีละ ๑๐ วิชา
ᅟᅟᅟᅟ- เพิ่มปริมาณเนื้อหาทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษ เผยแพร่ทั้งในรูปของเอกสารและทาง Online
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่นำความก้าวหน้าด้าน เทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารสถาบัน ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- เพิ่มสมรรถนะเครือข่าย MCU-Network ให้สามารถรองรับการใช้งานบริหารมหาวิทยาลัย ครอบคลุมทุกวิทยาเขต/ทุกวิทยาลัยสงฆ์
ᅟᅟᅟᅟ- นำ Application มาใช้ในการบริหารด้านการเงิน-งบประมาณ ด้านงานบุคคล ด้านการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพในเชิงนโยบายแต่หลากหลายในทาง
ᅟᅟᅟᅟ- พัฒนาบุคลากร/เจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและเทคโนโลยี (IT) ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ โดยซีดความสามารถและจำนวนของบุคลากรเจ้าหน้าที่ด้านนี้ปัจจุบันมีดังนี้ (๑) ด้านเว็บไซต์ ระดับพื้นฐาน จำนวน ๘๕ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๑ คน ระดับสูง จำนวน ๑ คน (๒) ด้านเน็ตเวิร์ค ระดับพื้นฐาน จำนวน ๓๗ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๑๑ รูปหรือคน ระดับสูง จำนวน ๑ คน (๓) อี-เลิร์นนิ่ง ระดับพื้นฐาน จำนวน ๓๗ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๑ รูปหรือคน ระดับสูง จำนวน ๑ รูปหรือคน (๔) ด้านแอพพลิเคชั่น- ระดับพื้นฐาน จำนวน ๔๓๒ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๕๙ รูปหรือคน ระดับสูง ๖ รูปหรือคน
ᅟᅟᅟᅟนอกจากนี้ เมื่อจัดกลุ่มแยกย่อยลงไป มีขีดความสามารถและจำนวนบุคลากร/เจ้าหน้าที่ ดังนี้ (๑) ห้องสมุด ระดับพื้นฐาน จำนวน ๖๘ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๕๖ รูปหรือคน ระดับสูง จำนวน ๒ รูปหรือคน (๒) ด้านอี-มีทติ้ง ระดับพื้นฐาน จำนวน ๔๐ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๑ รูปหรือคน ระดับสูง จำนวน ๑ รูปหรือคน (๓) ด้านทะเบียน+การเงิน ระดับพื้นฐาน จำนวน ๓๒๔ รูปหรือคน ระดับกลาง จำนวน ๒ รูปหรือคน ระดับสูง จำนวน ๓ รูปหรือคน (๔) ด้านเอ็มไอเอส - MIS ระดับพื้นฐาน จำนวน ๕๐ รูปหรือคนระดับกลาง จำนวน ๑ รูปหรือคน
ᅟᅟᅟᅟ- ศึกษาวิจัย/นำเสนอ/บริการข้อมูลด้านพระพุทธศาสนาทุกมิติทั้งออนไซต์และออนไลน์ มีความถูกต้อง มีจำนวนมาก มีหลายภาษา ทำหน้าที่เน้นบทบาทผู้สร้างและนำเสนอเนื้อหา
ᅟᅟᅟᅟ- ระบบ BIG DATA เพื่องานบริหารมหาวิทยาลัย ให้มีลักษณะเป็นกึ่ง E-RGANIZATION และเป็นกึ่ง DIGITAL UNIVERSITY
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ทำข้อตกลงร่วมมือกับองค์กร/สถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก จะสานต่อกิจกรรมร่วมกันที่ทำมาให้ยิ่งขึ้น จะเริ่มกิจกรรมร่วมกันใหม่ ๆ ให้มาก ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟ- มหาเถรสมาคม (มส.)
ᅟᅟᅟᅟ- โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕
ᅟᅟᅟᅟ- โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข
ᅟᅟᅟᅟ- หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.)
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ สำนักงานพระพุทธศาสนา ประจำจังหวัด
ᅟᅟᅟᅟ- กระทรวงวัฒนธรรมและวัฒนธรรมประจำจังหวัด
ᅟᅟᅟᅟ- ศูนย์คุณธรรม
ᅟᅟᅟᅟ- กองธรรม กองบาลี และการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ
ᅟᅟᅟᅟ- องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และเขตพื้นที่การศึกษาของ สพฐ.
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
ᅟᅟᅟᅟ- สถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.)
ᅟᅟᅟᅟ- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ᅟᅟᅟᅟ- กระทรวงยุติธรรม (งานศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน)
ᅟᅟᅟᅟ- กระทรวงสาธารณสุข (โรงพยาบาลสงฆ์เป็นต้น)
ᅟᅟᅟᅟ- สมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU)
ᅟᅟᅟᅟ- สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV)
ᅟᅟᅟᅟ- สถาบันสมทบในต่างประเทศ
๒.๑.๘ นโยบายที่ ๘ บริหารองค์กรโดยหลักธรรมาภิบาลและพระธรรมวินัย
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมี ๒ สถานะคือ (๑)เป็นสถาบันอุดมศึกษาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีพันธกิจ ๔ ด้านคือ ผลิต บัณฑิต วิจัย บริการวิชาการ และทะนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรมเหมือนกับสถาบันอุดมศึกษาทั่วไป และ (๒)เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ของคณะสงฆ์ไทย ที่มหาเถรสมาคมซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทยรับรองอย่างเป็นทางการ ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เรื่อง การศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ซึ่งเท่ากับว่ามหาวิทยาลัยมีพันธกิจของคณะสงฆ์อีก ๖ ด้านคือ การปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ การสาธารณูปการ การสาธารณสงเคราะห์ และการศึกษาสงเคราะห์ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและยึดหลักพระธรรมวินัยควบคู่กันไป อนุวัตตามกันและกัน
ᅟᅟᅟการบริหารงานเพื่อความสำเร็จตามนโยบาย ๖ ประการข้างต้นโดยหลักธรรมาภิบาลและหลักพระธรรมวินัยควบคู่กัน คือ
- ประการที่ ๑ หลักนิติธรรม (Rule of Law) และศีล/พระวินัย ᅟᅟᅟบริหารงานโดยยึดข้อกฎหมาย ๒ ส่วน คือส่วนที่เป็นข้อกฎหมายที่หน่วยงานราชการประกาศใช้และส่วนที่เป็นกฎระเบียบที่มหาหวิทยาลัยกำหนดขึ้นมาเองโดยอนุวัตตามกฎระเบียบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของทางราชการและกฎเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดขึ้นมาเองนั้น ต้องอนุวัตตามกันและกันกับศีล/พระวินัยตามหลักพระพุทธศาสนาด้วย
- ประการที่ ๒ หลักคุณธรรม (Morality) ᅟᅟᅟบริหารงานโดยยึดความถูกต้องตามหลักนิติธรรม ความยุติธรรม และตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของสถาบันและชุมชนโดยรอบ ปฏิบัติตามหลักกุศลกรรมบถหรือทางแห่งความดีทางกาย (กายสุจริต) ทางวาจา (วจีสุจริต) และทางใจ (มโนสุจริต)
- ประการที่ ๓ หลักความโปร่งใส (Accountability) ᅟᅟᅟบริหารงานตามข้อกฎหมายและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงานในทุกเรื่อง โดยการสื่อสารภายในองค์กรและสื่อสารกับสถาบัน/องค์กรและชุมชนภายนอก เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารมหาวิทยาลัยตามช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ประชาคมภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยได้รับรู้ข้อมูลที่อยู่ในระดับที่เขามีสิทธิ์จะรับรู้ มีระบบ/ช่องทางเปิดข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงง่ายและมีการสื่อสาร ๒ ทางอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัยหรืออนุวัตตามหลักพระธรรมวินัยด้วย
- ประการที่ ๔ หลักความมีส่วนร่วม (Participation) ᅟᅟᅟบริหารงานโดยหลักการมีส่วนร่วมทั้งของประชาคมภายในมหาวิทยาลัยและประชาคมภายนอก นั่นคือ
ᅟᅟᅟด้านที่ ๑ ประชาคมภายใน มหาวิทยาลัยมีส่วนงานจัดการศึกษาที่ มจร วังน้อย ๕ คณะ ๒ วิทยาลัย มีส่วนงานจัดการศึกษาในส่วนภูมิภาคประกอบด้วย ๑๑ วิทยาเขต ๒๘ วิทยาลัยสงฆ์ ๒ หน่วยวิทยบริการ และ ๕ สถาบันสมทบในต่างประเทศ ให้ทุกส่วนงานมีส่วนร่วมทั้งโดยรูปของคณะกรรมการด้านต่าง ๆ ทั้งโดยการกิจกรรมสื่อสารสัมพันธ์ในโอกาสต่าง ๆ ให้มีส่วนร่วมรับรู้และร่วมเสนอความเห็นในเรื่องสำคัญและมีความเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ โดยเป็นไปตามหลักอปริหานิยธรรม พรหมวิหารธรรม สาราณียธรรม และธรรมข้ออื่น ๆ
ᅟᅟᅟด้านที่ ๒ ประชาคมภายนอก มหาวิทยาลัยมี ๒ สถานะคือเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเป็นสถาบันการศึกษาคณะสงฆ์ไทย จึงต้องให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาคมภายนอกอย่างยิ่ง ทั้งที่เป็นสถาบัน/องค์กรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งกับมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและ สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด กระทรวงวัฒนธรรมและวัฒนธรรมประจำจังหวัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นต้น - ประการที่ ๕ หลักความรับผิดชอบ (Responsibility) ᅟᅟᅟบริหารงานโดยหลักความรับผิดชอบ ๒ ระดับ คือ
ᅟᅟᅟระดับที่ ๑ ให้ผู้บริหารทุกระดับมีความรับผิดชอบลดหลั่นกันตามฐานะ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้งานเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่กระจุกตัวแออัดเป็นคอขวดอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการให้ผู้บริหารทุกระดับได้เรียนรู้ระบบและกลไกการบริหารงานมหาวิทยาลัยด้วย ท้ายที่สุดจะทำให้แผนงาน/โครงการที่รัฐและประชาชนทั่วไปสนับสนุนงบประมาณบรรลุเป้าหมายและเป็นคุณูปการแก่สังคมประเทศชาติสืบไป
ᅟᅟᅟระดับที่ ๒ ให้ผู้บริหารมีความรู้สึกสำนึกตลอดเวลาว่า มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐในฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและได้รับเงินบริจาคจากคณะสงฆ์และประชาชนทั่วไปในฐานะเป็นสถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์และเป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ต้องทำงานให้มากขึ้นเป็น ๒ เท่า ต้องให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์/เป้าหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกเรื่องไป ให้สำนึกอย่างนี้เป็นเบื้องต้น โดยวาทกรรมที่สื่อสารกันอยู่เนือง ๆ คือ “งบประมาณที่รัฐจัดสรรให้นั้นมาจากภาษีอากรของประชาชน และประชาชนผู้เสียภาษีเหล่านี้ยังได้สนับสนุนงบประมาณโดยการบริจาคอีก” - ประการที่ ๖ หลักความคุ้มค่า(Cost-Effectiveness) ᅟᅟᅟบริหารงานโดยยึดแผนยุทธศาสตร์(แผนพัฒนามหาวิทยาลัย)ระยะที่ ๑๓ ที่คลี่ออกมาเป็นแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมในแต่ละปีงบประมาณ นอกจากนี้โดยยึดนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่กำหนดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยได้เข้าสังกัดในกลุ่ม ๔ พัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา โดยการบริหารงานตามนโยบาย ๗ ข้อนั้น จะยึดหลักความคุ้มค่านี้เป็นแนวปฏิบัติ เช่น นโยบายที่ ๒ มหาวิทยาลัยสีเขียว เช่น ได้มีมาตรการประหยัดค่าสาธารณูปโภคคือ ไฟฟ้า โดยลดจำนวนหลอดไฟบางจุดที่มีมากเกิดความจำเป็น ใช้สวิทช์อัตโนมัติที่เปิดเมื่อคนเดินเข้าไปใช้และปิดเองเมื่อไม่มีคนเข้าไปใช้งานในที่นั้น ๆ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดประหยัดพลังงาน รณรงค์ให้มีจิตสำนึกช่วยกันประหยัดไฟฟ้า นโยบายที่ ๓ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ มีการเปิดสอนหลักสูตรด้านพระพุทธศาสนา และพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ระดับรับปริญญา Degree และหลักสูตรระดับประกาศนียบัตร (Non Degree) ระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อรับปริญญา โดยเปิดโอกาสให้ผู้จบการศึกษาระดับงประกาศนียบัตรสาขาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยสะสมหน่วยกิตเพื่อรับปริญญา หลักสูตรบริการวิชาการ Massive Online Open Course (Mooc) และในอนาคตจะร่วมมือกับเครือข่ายจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ๒ ปริญญา รวมทั้งเปิดรับนิสิตนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาอื่นมาลงทะเบียนเรียนบางรายวิชาเพื่อสะสมหน่วยกิตรับปริญญาหรือเพิ่มพูนความรู้ บริหารงานมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นเสาหลักของสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นด้านพระพุทธศาสนา จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตและสังคมสืบไป
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม
ᅟᅟᅟ๒.๓.๑ ผลิตบัณฑิต ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ โดยคำนึงถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของการเป็นมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ การเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา โดยกระบวนการผลิตบัณฑิตจะบูรณาการร่วมกับพัฯธกิจด้านการวิจัยและพัฒนาด้านการบริการวิชาการ และด้านทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเพื่อผลิตบัณฑิตให้มีสติปัญญาและคุณธรรม ตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟ๒.๓.๒ วิจัยและพัฒนา พัฒนาระบบการบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมควบคู่ไปกับกระบวนการเรียนการสอน การบริการวิชาการ และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เน้นการพัฒนาองค์ความรู้ในพระไตรปิฎก โดยวิธีสหวิทยาการแล้วนำองค์ความรู้ที่ค้นพบมาประยุกต์ให้แก้ปัญหาศีลธรรมและจริยธรรมของสังคม รวมทั้งพัฒนาปัญญาและคุณธรรม การพัฒนาคุณภาพงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนาโดยความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพนักวิจัย ผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือพุทธนวัตกรรมให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและมีความเป็นสากล และใช้กระบวนการวิจัยเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตบัณฑิต บริการวิชาการ และทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อบูรณาการพระพุทธศาสนา กับศาสตร์สมัยใหม่ให้สู่ภาคปฏิบัติได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
ᅟᅟᅟ๒.๓.๓ ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคม ส่งเสริมให้บุคลากรและนิสิต มีความตระหนังและเห็นความสำคัญของการมีจิตอาสา ความเจริญงอกงามทางสติปัญญาและคุณธรรม การมีส่วนร่วมในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พัฒนาการบริการวิชาการที่เกิดจากประสบการณ์การปฏิบัติงานของบุคลากรและนิสิตร่วมกับภาคีเครือข่ายการบริการวิชาการในระดับชาติ ภูมิภาค และนานาชาติ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และพุทธนวัตกรรมในการแก้ปัญหาและเสริมสร้างสันติสุขและความมั่นคงของ ชุมชน วัด ท้องถิ่น และสังคมโดยใช้การปฏิบัติศาสนกิจและการบริการสังคมของนิสิต เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพันธกิจ
ᅟᅟᅟ๒.๓.๔ ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับภาคีเครือข่าย ชุมชน วัด ท้องถิ่น หรือเครือข่ายความร่วมมือในต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาแลห่งการเรียนรู้ด้านการอนุรักษณ์ สืบสาน ส่งเสริม พระพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เอื้อต่อการศึกษาโดยใช้พระพุทธศาสนาเป็นกลไกเพื่อสร้างจิตสำนึกและความภาคภูมิใจในความเป็นไทยรวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างมีดุลยภาพและยั่งยืน
ᅟᅟᅟ๒.๓.๕ การบริหารจัดการองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ทบทวนกฎหมาย ปรับปรุงกฎหมาย ให้ทันสมัยสอดคลองกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามรูปแบบ และส่งเสริมการใช้กฎหมายให้กับบุคลากรอย่างถูกต้องในกระบวนการทำ ตามหลักการบริหารและพัฒนาบุคลากรให้เกิดการบริหารการเปลี่ยนแปลง โดยยึดหลักการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
๒.๔ แผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ.๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)
ᅟᅟᅟประเด็นยุทธศาสตร์ ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ฉบับที่ ๑๓
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีทิศทางยุทธศาสตร์มุ่งสู่การเป็นเลิศทางการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคม และเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับชาติและอาเซียน เพื่อการกาหนดทิศทางให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงดาเนินการจัดทาแผนพัฒนามหาวิทยาลัย ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) ซึ่งประกอบด้วย ๕ ยุทธศาสตร์ ๑๗ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟยุทธศาสตร์ที่ ๑ จัดกสรศึกษา พัฒนาบัณฑิตให้มีสติปัญญาและคุณธรรม ประกอบด้วย ๔ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๑.๑ บัณฑิตมีคุณลักษณะทางสติปัญญาและคุณธรรม
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๑.๒ หลักสูตรมีการบูรณาการหลักพระพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๑.๓ อาจารย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์และสามารถบูรณาการพุทธนวัตกรรมกับกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม*
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๑.๔ ทรัพยากรการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการศึกษา
ᅟᅟᅟยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนางานวิจัยและพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม ประกอบด้วย ๔ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๒.๑ มีระบบและกลไก การส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารงานวิจัยที่ได้มาตรฐาน
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๒.๒ ผลงานวิจัยและ /หรือนวัตกรรมที่พัฒนาปัญญาและคุณธรรม
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๒.๓ ผลงานวิจัยงานสร้างสรรค์หรือพุทธนวัตกรรมได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ทั้งในระดับชาติหรือนานาชาติ
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๒.๔ ผลงานวิจัยงานสร้างสรรค์หรือพุทธนวัตกรรมได้รับการอ้างอิงหรือนำไปใช้ประโยชน์ในระดับชาติหรือนานาชาติ
ᅟᅟᅟยุทธศาสตร์ที่ ๓ บริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ชุมชน วัด ท้องถิ่นและสังคมให้เกิดสันติสุขประกอบด้วย ๒ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๓.๑ ศูนย์กลางบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญาเพื่อสร้างชุมชนและสังคมสันติสุขอย่างยั่งยืนในระดับชาติหรือนานาชาติ
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๓.๒ ผลงานบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญาที่บูรณาการกับพันธกิจเพื่อสร้างชุมชนสังคมสันติสุขอย่างยั่งยืน
ᅟᅟᅟยุทธศาสตร์ที่ ๔ อนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริม พระพุทธศำสนำ ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย ๒ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๔.๑ ผลงานด้านการอนุรักษ์สืบสานส่งเสริมและพัฒนาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาชุมชนสังคมอย่างยั่งยืน
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๔.๒ พุทธนวัตกรรมที่เกิดจากการอนุรักษ์สืบสานส่งเสริมและพัฒนาศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นในระดับชาติหรือนานาชาติ
ᅟᅟᅟยุทธศาสตร์ที่ ๕ พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล ประกอบด้วย ๓ เป้าประสงค์ ดังนี้
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๕.๑ มีระบบการบริหารจัดการองค์กรวิถีพุทธ
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๕.๒ มีระบบการบริหารจัดการด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
ᅟᅟᅟᅟเป้าประสงค์ที่ ๕.๓ มีระบบการบริหารจัดการด้วยรูปแบบมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)
*ภาพที่ ๒.๑ แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy map) ในแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)
ส่วนที่ ๓ การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปีงบประมาณ ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐
ᅟᅟᅟตามทิศทางการพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมุ่งการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร โดยใช้เครื่องมือบริหารจัดการยุคใหม่ การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดการ
*แผนภาพที่ ๓.๑ ความเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ แผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะที่ ๑๓ กับ แผนพัฒนาบุคลากร ปีงบประมาณ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)
ส่วนที่ ๔ แผนพัฒนาบุคลากร
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการมีแผนพัฒนาบุคลากรในภาพรวม สำหรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานด้านการพัฒนาบุคลากร
ᅟᅟᅟเพื่อให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีสมรรถนะท้งทางด้านทักษะ ความรู้ และมีมาตรฐานในการในการปฏิบัติงานที่สนับสนุนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ ได้แก่ “มหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม” ทั้งนี้บุคลากรของมหาวิทยาลัยต้องได้รับการพัฒนา และมีวความก้าวหน้าตามสายอาชีพ และเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดกลุ่ม ๔ ที่พัฒนาปัญญาและคุณธรรม
ᅟᅟᅟเนื่องจากมหาวิทยาลัย ต้องการให้เกิดการพัฒนาบุคลากรที่ตอบสนองต่อการแข่งขันจากภายนอกอย่างรวดเร็ว จึงได้จัดทำแผนพัฒนาบุคลากรที่มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ ของแผนพัฒนาบุคลากรไว้ดังนี้
ᅟᅟᅟ๔.๑.๑ ร้อยละความสำเร็จของการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
กับการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ
ᅟᅟᅟ๔.๑.๒ ร้อยละความสำเร็จของการขับเคลื่อนโครงการตามแผนพัฒนาบุคลากร
ภาพที่ ๓.๑ Road Map ของแผนพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปีงบประมาณ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐)
ส่วนที่ ๕ การนำแผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยสู่การปฏิบัติ
ᅟᅟᅟการนำแผนพัฒนาบุคลากรไปดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ซึ่งต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกส่วนงานและบุคลากรทุกคนในมหาวิทยาลัย ดังนั้น เพื่อให้แผนพัฒนาบุคลากรมีความสอดคล้องกันในระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติการ ตลอดจนมีแนวทางการดำเนินงานที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ควรดำเนินการดังนี้
ᅟᅟᅟ๕.๑.๑ ระดับนโยบาย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลนโยบายที่เกี่ยวข้องกับส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัย พิจารณากำหนดนโยบายเสนอความเห็นก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ
ᅟᅟᅟ๕.๑.๒ ระดับขับเคลื่อนแผน มีคณะ/ส่วนงาน ทำหน้าที่ในการนำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร รวมทั้งติดตามความก้าวหน้า และนำเสนอข้อแนะนำ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ของมหาวิทยาลัย
ᅟᅟᅟ๕.๑.๓ ระดับปฏิบัติการ ประกอบด้วย บุคลากรของมหาวิทยาลัยทุกคน จะต้องรับทราบนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร และนำไปปฏิบัติในส่วนที่ตนมีความเกี่ยวข้อง
ᅟᅟᅟ๕.๒.๑ ระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้มีการบูรณาการแผนพัฒนาบุคลากร (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) และ
แผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย และนำไปกำหนดเป็นกรอบของแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยและคณะ/ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นกรอบและแนวทางในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ และดูแลรับผิดชอบโครงการ/กิจกรรมในการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในภาพรวมเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ᅟᅟᅟ๕.๒.๒ ระดับคณะ/ส่วนงาน เพื่อให้มีการขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติในระดับคณะ/ส่วนงาน โดยผลักดันให้นโยบายการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของคณะ/ส่วนงาน รวมทั้งเป้าหมาย มาตรการ และแนวทางไปดำเนินการจัดทำโครงการ/กิจกรรมเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และการมีส่วนร่วมในโครงการ/กิจกรรมที่มหาวิทยาลัยดำเนินการในภาพรวม
ᅟᅟᅟ๕.๒.๓ ระดับบุคคล ให้คณะ/ส่วนงานนำตัวชี้วัดของแผนพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวกับตัวบุคคลไปกำหนด
ในกรอบการประเมินผลระดับบุคคล เพื่อวัดผลงานระดับบุคคลและนำไปสู่การเป็น ส่วนหนึ่งของการพิจารณาความดีความชอบระดับบุคคล หรือการต่อสัญญาจ้างต่อไป
ᅟᅟᅟ๕.๓.๑ แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัย ทำหน้าที่กำกับติดตามการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ประจำปี
ᅟᅟᅟ๕.๓.๒ มีการประเมินผลตามเป้าหมายรายยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาบุคลากร
ᅟᅟᅟ๕.๓.๓ ให้มหาวิทยาลัยและคณะ/ส่วนงานนำแผนพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยไปบูรณาการร่วมกับการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของมหาวิทยาลัยและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของคณะ/ส่วนงาน
ᅟᅟᅟ๕.๓.๔ นำตัวชี้วัดในแผนพัฒนาบุคลากรไปกำหนดเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน สำหรับรายบุคคล
ᅟᅟᅟ๕.๓.๕ มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการประเมินผลการดำเนินงานของส่วนงานในระดับปฏิบัติการ ตามระยะเวลาที่กำหนดให้มีการประเมินแผนฯ เพื่อนำผลการประเมินมาปรับปรุงแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ᅟᅟᅟ๕.๓.๖ ทบทวนแผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัย เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานและปรับปรุงแผนฯ
ᅟᅟᅟมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐), ๒๕๖๖.
*ดูแบบ e-Book แผนพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปีงบประมาณ ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐